เทรนไอทีปีนี้ เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรา

เทรนไอทีปีนี้ ได้รับความนิยมอีกหนึ่งอย่าง และ จำเป็นกับทุก ๆ บ้านที่ควรจะมี และอีกหลายๆเทรนของเทคโนโลยีต่อจากนี้

เทรนไอทีปีนี้ ของปี 2023

ไอทีเทรนด์ 2023 ที่เป็น เทรนไอทีน่าสนใจ ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมานานนับสิบปี สิ่งที่ทำให้มันใช้เวลานานกว่าจะเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางก็คือเรื่องประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และคุณภาพของการประมวลผล แต่วันนี้ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ในโลกเรานั้นก้าวหน้าไปมาก

ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในช่วงปลายปี 2022 จนถึงต้นปี 2023 ก็คือ ChatGPT หนึ่งใน AI ที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดตัวหนึ่ง จนทำให้ผู้พัฒนาต้องออกมาสร้างเซิร์ฟเวอร์ให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการเข้าใช้งานของผู้คนที่มีมากขึ้น และการใช้งานที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนี้ก็มาจากประสิทธิภาพการทำงานของ AI ที่ทำเอาหลายคนอึ้งไปตาม ๆ กัน ชนิดที่ว่าอนาคตมันอาจจะมาแทนแรงงานคนได้จริง ๆ ก็เป็นได้

ChatGPT เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในสังคม ไอทีมาแรง ส่วนในภาคธุรกิจก็มีการใช้ AI เข้ามาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งตัวอย่างที่เข้าใจง่ายคือ แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำที่ชื่อว่า “Stitch Fix” ก็ได้นำ AI เข้ามาใช้งานโดยมีอัลกอริทึมที่ใช้แนะนำเสื้อผ้าที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ในแง่ของรสนิยมและขนาด

ส่วนในประเทศไทย บริษัทยักษ์ใหญ่ของเครือข่ายโทรคมนาคมก็เริ่มมีการนำ AI มาใช้ระวังป้องกันเชิงรุกสำหรับดูแลประสิทธิภาพของเครือข่ายให้ลูกค้าได้ใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้โดยไม่มีสะดุดตั้งแต่ปี 2022 หากผลตอบรับดี ปี 2023 จะเป็นอีกปีที่เทรนด์ไอทีเรื่องปัญญาประดิษฐ์จะได้พิสูจน์ตัวเองแล้วยิ่งมีบทบาทมากขึ้น

เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน

ในขณะที่ทุก ๆ เทคโนโลยีกำลังก้าวล้ำไปข้างหน้า อีกหนึ่งพื้นฐานของแนวคิดที่จะพาเทคโนโลยีต่าง ๆ ประสบความสำเร็จคือ เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน

ในช่วงปีที่ผ่านมา โลกได้พบกับปัญหาการคลาดแคลนชิป (Computer Chips Shortage) ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของการประมวลผลของทุกเทคโนโลยี และในทุกอุตสาหกรรม นี่คือเรื่องของการซัพพลายองค์ประกอบให้กับหลาย ๆ องค์กรที่ดำเนินธุรกิจอยู่ เพื่อรักษาความยั่งยืน องค์กรต้องปรับตัวและหาแผนสำรองสำหรับเรื่องเหล่านี้ในอนาคต

 

ความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security)

จนถึงปี 2022 หลายเทคโนโลยี และข้อมูลต่าง ๆ ถูกผนวกรวมกันเป็นระบบนิเวศทางดิจิทัล ดังนั้นการพุ่งเป้าโจมตีจากกลุ่มมิจฉาชีพต่าง ๆ จะพุ่งไปที่เรื่องความปลอดภัยของข้อมูลของสถาบันใหญ่ๆ เช่น ธนาคาร, องค์กรของรัฐ, องค์กรเอกชนชั้นนำ

โดยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19ก็สร้างความเสียหายด้านการปลอมวัคซีนในภูมิภาคอาเซียนไปถึง 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 9 หมื่นล้านบาท) ดังนั้นนับจากนี้เรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องของผู้อื่นอีกต่อไปหากแต่เป็นผู้ใช้งานดิจิทัลทุกคน สิ่งที่ควรใส่ใจในประเด็นความปลอดภัยทางไซเบอร์คือ

ให้ความรู้พนักงานในทุกระดับชั้นเกี่ยวกับ Cyber Security พนักงานเพียงคนเดียวที่สร้างช่องโหว่ความปลอดภัยทางไซเบอร์ก็สามารถล้มบริษัทยักษ์ใหญ่ได้ ดังนั้นการทำให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง

นโยบาย Security Zero Trust ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่ต้องการยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้ได้ภายในปี 2024 เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นให้องค์กรทั่วทั้งโลกปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวหากยังต้องการทำธุรกิจเชื่อมโยงกันอยู่ และนั่นจะส่งผลถึงองค์กรในประเทศไทยด้วย

อีกหนึ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกันคือความก้าวหน้าของเทคโนโลยี “ควอนตัมคอมพิวเตอร์” ซึ่งหากอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายคือ การประมวลผลของคอมพิวเตอร์รูปแบบใหม่ที่ทำให้ความเร็วในการทำงานของคอมพิวเตอร์เร็วขึ้นได้ถึง ล้านล้านเท่า เมื่อเทียบกับการประมวลผลแบบปัจจุบัน ซึ่งหลายองค์กรกำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์อย่างจริงจัง สิ่งนี้ดูเหมือนเรื่องไกลตัว

 

Robot และ Automation

ความสามารถของซอฟต์แวร์ผนวกรวมกับฮาร์ดแวร์ทำให้ความสามารถของหุ่นยนต์ยิ่งใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็ถูกนำมาใช้ในชีวิตจริงมากขึ้นเช่นกัน เช่น หุ่นยนต์ต้อนรับ หุ่นยนต์ส่งของ หุ่นยนต์ชงกาแฟ ฯลฯ ซึ่งหุ่นยนต์เหล่านี้สามารถทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างง่ายดายและผิดพลาดน้อยมาก ๆ

หนึ่งในบริษัทชื่อดังระดับโลกอย่าง Tesla เองก็ได้เผยให้เห็นในงาน Tesla AI Day ช่วงเดือนกันยายนปี 2022 เกี่ยวกับหุ่นยนต์ต้นแบบสองตัวที่ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla กล่าวว่าจะเปิดให้สั่งจองได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และแทบจะกลายเป็นหุ่นยนต์รับใช้สำหรับงานบ้านต่าง ๆ ได้เลยทีเดียว

บทสรุป : เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดในทุกปี

หลังจากผ่านร้อนผ่านหนาวในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ที่ทำเอาหลายองค์กรต้องปรับตัวยกใหญ่ และบางองค์กรก็ปิดตัวลงไป ดังนั้นในปี 2023 นี้จะเป็นปีที่แนวคิดซึ่งถูกฟูมฟักมาตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีที่ให้ประโยชน์ต่อภาพรวมของธุรกิจ ตั้งแต่ตัวองค์กรเอง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ themebounce